เก่ง C# ให้ครบสูตร ฉบับ OOP
ผู้เขียน: นิรันดร์ ประวิทย์ธนา
ISBN: 978-616-7119-20-5
จำนวนหน้า: 544 หน้า
ขนาด: 19 x 24 x 2.6 ซม.
รูปแบบหนังสือ:
หนังสือขาวดำ
ราคาปก: 395 บาท
ราคาสั่งซื้อ: 340 บาท
- เจาะลึกภาษา C# จาก 3.0 ถึง 4.0 รวมทั้ง Microsoft .NET Framework จาก 3.0 ถึง 3.5 และ 4.0
- เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ OOP พื้นฐาน และวิวัฒนาการไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี ADO .NET Entity Framework เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับฐานข้อมูล
- อธิบายด้วยตัวอย่างซอร์ซโค้ดที่เข้าใจง่าย พร้อมแผนภาพ UML ประกอบทุกตัวอย่าง สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริง
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยภาษา C#
- ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมแบบ OOP อย่างถูกต้อง
- ผู้ที่สนใจการติดต่อฐานข้อมูลด้วยเทคโนโลยีแบบ OOP
จะอ่านหนังสือเล่มนี้ ควรรู้อะไรมาก่อนบ้าง?
- พื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
จะทดสอบตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้ ต้องมีอะไรบ้าง?
- เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP หรือ Windows 7 หรือ Windows ใดๆ ที่ติดตั้ง Visual C# ได้
- โปรแกรม Visual C# Express 2010 และ Microsoft SQL Server Express 2008 (อ่านวิธีดาวน์โหลดและติดตั้งได้ในบทที่ 2)
เสียงตอบรับผลงานหนังสือเรื่องแรกของผู้เขียน => เก่ง C# ให้ครบสูตร
- ผมเคยเข้าไปในห้องสมุดอ่านหนังสือเล่มนึง ชื่อว่า "เก่ง C# ให้ครบสูตร" ที่คุณนิรันดร์ ประวิทย์ธนา เป็นผู้เขียน เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเข้าใจและเนื้อหา ดีมากๆ เพราะเป็นภาษาไทยและใช้คำอธิบายที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ในประเทศไทยจะหาหนังสือดีๆ แบบนี้ยากมาก โสภณ
- ผมได้ซื้อหนังสือ "เก่ง C# ให้ครบสูตร" มาศึกษา ผมชอบหนังสือของ Witty มาก อ่านเข้าใจง่ายดี ตอนนี้ก็มีอยู่หลายเล่มแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะมีหนังสือเกี่ยวกับ C# ออกมาอีกครับ ขอให้ทีมงาน Witty ออกหนังสือดีๆ อย่างนี้มาอีกนะครับ ชัยพงศ์
- ผมไม่คิดว่าหนังสือไทยไม่ดีซะทั้งหมด มีหลายเล่มที่เขียนได้ดี เช่น เก่ง C# ให้ครบสูตร ผมว่าเล่มนี้ดีมาก ขอบอกเลย โดยส่วนตัวไม่ได้เขียน C# แต่พอได้อ่านแล้วทำให้ผมเข้าใจและใช้ OOP ได้ดีขึ้นมากครับ xxxx (จากเว็บบอร์ด pantip.com)
- ถ้าภาษาไทย เคยอ่านจริงๆ อยู่เล่มเดียวคือ "เก่ง C# ให้ครบสูตร" ของ Witty Group (ชาวพันทิปแนะนำ เลยซื้อมา) อ่านเพลินดีครับ คือรู้สึกอ่านแล้วไม่เหมือนอ่านน่ะ อ่านแล้วเหมือนมีคนมาเล่าให้ฟัง หรือคุยกันเพื่อนมากกว่า (แนวๆ ว่าเป็นกันเองน่ะแหละ) เลยทำให้บรรยากาศไม่เครียดดีครับ ที่ชอบอีกอย่างคือ คนเขียนชอบยกตัวอย่างโลกจริงๆ ทำให้เรามองเห็นภาพในขณะอ่านได้เลย (แต่ยังไงก็ต้องฝึกเขียนบ่อยๆ อยู่ดี) ไม่ลงชื่อ (จากเว็บบอร์ด witcomram.com)
- ถ้าเป็นหนังสือ C# ที่เน้นแบบ command line แนะนำของบริษัท Witty ครับ (รู้สึกหนังสือชื่อ เก่ง C# ให้ครบสูตร) อธิบายได้เข้าใจง่ายมากทีเดียว (รวม OOP ไปแล้วด้วย) Maikub (จากเว็บบอร์ด community.thaiware.com)
บทที่ 1 แนะนำ Microsoft .NET และ .NET Framework
Microsoft .NET คืออะไร .NET Framework มาจากไหน มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร เราจะไขคำตอบให้ท่านผู้อ่านทราบอย่างทะลุปรุโปร่งก่อนในบทแรกนี้ เพราะเป็นสิ่งที่มีบทบาทเกี่ยวพันกับ ภาษา C# อย่างแยกกันไม่ออก ตั้งแต่ระดับพื้นฐานเลยทีเดียว
- แพลตฟอร์ม...จากอดีตถึงปัจจุบัน
- ยุคแรก เริ่มจากแพลตฟอร์มระบบ DOS
- ยุคที่สอง กำเนิดแพลตฟอร์มระบบ Windows
- ยุคที่สาม เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต
- ยุคที่สี่ โลกอินเทอร์เน็ตหลอมรวมทุกสิ่งทุกอย่าง
- หมัดเด็ดของแพลตฟอร์ม .NET อยู่ตรงไหน ??
- สร้างรูปแบบการพัฒนาโปรแกรมแบบใหม่
- รองรับการพัฒนาอย่างครบวงจร
- สร้างคอนเซปต์ที่เรียกว่า distributed system อันสมบูรณ์แบบ
- มาตรฐานข้อมูลที่ตรงกัน
- แล้วไม่มีจุดอ่อนบ้างเหรอ ??
- หัวใจหลักของ Microsoft .NET คือ .NET Framework
- .NET Framework 1.0
- .NET Framework 1.1
- .NET Framework 2.0
- .NET Framework 3.0 และ 3.5
- .NET Framework 4.0
- ส่วนประกอบของ .NET Framework 2.0
- Common Language Runtime 2.0 แม่บ้านของ .NET
- .NET Framework Base Class Library เครื่องมือของ .NET
- Runtime Hosts บ่งบอกการนำไปใช้งาน
- ส่วนประกอบของ .NET Framework 3.0
- ส่วนประกอบของ .NET Framework 3.5
- ส่วนประกอบของ .NET Framework 4.0
- โครงสร้างเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้
- เลือกเนื้อหาเจาะลึก OOP
- ปูพื้นฐานอย่างประณีต
- In-Depth เจาะลึกให้รู้จริง
- ใช้ได้ทั้ง C# 2.0 ถึง C# 4.0
- มองให้ง่าย ไม่ซับซ้อน
- แถมปิดท้ายด้วยวิดีโอคลิป
- พูดคุย ซักถาม ทักทาย
บทที่ 2 C# ภาษาแห่ง .NET
หลังจากได้รู้จักกับ .NET Framework ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานของภาษา C# แล้ว ก็ได้ฤกษ์ที่จะมารู้จักภาษานี้อย่างจริงจังเสียที ไล่ตั้งแต่จุดกำเนิดของภาษา, ลักษณะเฉพาะของภาษา ไปจนถึงความสามารถของภาษา ก่อนที่จะเจาะลึกรายละเอียดในบทต่อๆ ไป
- กำเนิด C#
- ลักษณะเฉพาะของภาษา C#
- เขียนคล่อง
- เขียนง่าย
- เป็นอ็อบเจกต์
- ประสิทธิภาพสูง
- สามารถทำงานระดับลึก
- เน้นที่ XML
- คุณสมบัติ generic type
- เทคโนโลยี LINQ
- พร้อมคุณสมบัติภาษาแบบไดนามิก
- CLR ควบคุมการทำงานอยู่เบื้องหลัง
- Common Type System (CTS)
- Common Language Specification (CLS)
- Common Intermediate Language (CIL)
- Just in Time Compiler (JIT)
- Virtual Execution System (VES)
- C# ทำอะไรได้บ้าง
- Console Application
- Windows Forms
- Windows Control
- Windows Service
- ASP.NET
- Web Service
- Web Control
บทที่ 3 เริ่มก้าวแรกกับ Visual C# Express Edition
การเรียนรู้ภาษา C# ให้ได้ผล ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลงมือปฏิบัติจริง ดังนั้น เราจะมาติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่อง แล้วลองเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C# จากนั้นจึงคอมไพล์และรันโปรแกรมเพื่อดูผลลัพธ์กันสักหน่อย โดยจะทดลองทั้งการเขียนโปรแกรมแบบง่ายๆ ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมติดต่อกับอินเทอร์เน็ต..!
- แนะนำ Visual C# Express Edition ใครว่าของฟรีและดีไม่มีในไมโครซอฟต์
- ดาวน์โหลด + ติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็น
- เรียนลัดสุดๆ วิธีการใช้ Visual C# 2010 Express Edition
- โปรแกรมแรก Hello World ตามธรรมเนียม
- ลองเขียนโปรแกรมเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตดูหน่อย
บทที่ 4 ก้าวแรกกับตัวแปรในภาษา C#
ไม่ว่าจะเขียนโปรแกรมภาษาใดๆ ก็หนีไม่พ้นต้องเริ่มต้นศึกษา syntax และตัวแปรก่อน ภาษา C# ก็เช่นเดียวกัน เนื้อหาบทนี้จะแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวแปรประเภทต่างๆ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานอย่างตัวเลขและข้อความไปจนถึงตัวแปร array, struct และ enum รวมทั้งเรื่องของ reference type ซึ่งเป็น พื้นฐานที่จะเกี่ยวพันไปถึงอ็อบเจกต์ในบทหลังๆ
- บทบาทที่ขาดไม่ได้ของตัวแปร
- คัดแยกชนิดเป็น 5 กลุ่ม
- เลขจำนวนเต็ม
- เลขทศนิยม
- บูลีน
- ตัวอักษร
- ข้อความ
- จะใช้ตัวแปร ต้องสร้างและกำหนดค่า
- โอเปอเรชันพื้นฐาน 3 แบบ
- numerical operation
- string operation
- boolean operation
- เก็บข้อมูลชนิดเดียวกันใน array
- multidimensional array
- เก็บข้อมูลต่างชนิดกันใน struct
- เก็บข้อมูลที่ตั้งค่าขึ้นเองใน enum
- value type และ reference type
- จะทำงานกับ reference type ได้อย่างไร ??
บทที่ 5 ประโยคคำสั่งที่ใช้ควบคุมโปรแกรม
คำสั่งควบคุมการทำงานของโปรแกรมด้วยการกำหนดและตรวจสอบเงื่อนไข เป็นความรู้ “ภาคบังคับ” อีกเรื่องหนึ่งที่โปรแกรมเมอร์มือใหม่ต้องแม่น ดังนั้น นอกจากบทนี้จะแนะนำคำสั่งตรวจสอบเงื่อนไขทั้งแบบธรรมดาและแบบให้ทำงานวนลูปแล้ว ยังมีโจทย์มาให้ฝึกสมองเล่นๆ ตอนท้ายบทด้วยครับ
- ควบคุมด้วยการตรวจสอบเงื่อนไข
- logical operator กับ comparison operator
- comparison operator
- logical operator
- ตัดสินใจเลือกง่ายๆ แบบ if... else
- ใช้ switch... case เลือกจากหลายๆ กรณี
- while และ do... while ทำงานแบบวนลูป
- ยังมี for สำหรับทำงานวนลูปอีกแบบหนึ่ง
- foreach ใช้วนลูปสำหรับอาร์เรย์โดยเฉพาะ
- break เพื่อหยุด และ continue เพื่อเริ่มวนลูปใหม่
- ลองเขียนโปรแกรมแก้โจทย์ (ไม่ยาก) ดูหน่อย
บทที่ 6 พื้นฐานอ็อบเจกต์มาจากฟังก์ชัน
ฟังก์ชัน คือพื้นฐานระดับรากหญ้าที่จะพัฒนาไปสู่การเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ที่ผมมักจะกล่าวย้ำมาตลอดนั่นเอง เมื่อผ่านบทนี้ไปแล้วคุณก็จะยกระดับฝีมือขึ้นไปอีกขั้น และพร้อมที่จะศึกษาคอนเซปต์ของโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์อย่างจริงจังในบทต่อไป
- ว่าด้วยเรื่องข้อมูลกันอีกครั้ง
- ส่งค่าอย่างไร-รับค่าอย่างไร
- ฟังก์ชันคือผู้รับคำสั่งมาปฏิบัติ
- ประโยชน์ที่ทำให้เราขาดฟังก์ชันไม่ได้
- ช่วยให้โปรแกรมดูง่ายและสะอาด
- ช่วยให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็ว
- ช่วยลดงานได้
- ความสำคัญอยู่ที่ตอนสร้างฟังก์ชัน
- เรียนรู้ฟังก์ชันจากตัวอย่าง
- recursive function = ฟังก์ชันที่สั่งงานตัวเอง
- void function = ฟังก์ชันที่ไม่มีค่า
- function overloading = ฟังก์ชันชื่อซ้ำกัน
บทที่ 7 รู้จักอ็อบเจกต์และคลาส
บางคนอาจสงสัยว่า การเขียนโปรแกรมแบบดั้งเดิมไม่ดีตรงไหน ทำไมต้องเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ นี่คือปมปัญหาสำคัญที่จะต้องขบให้แตก เนื้อหาในบทนี้จะเท้าความให้เห็นภาพตั้งแต่ก่อนที่คอนเซปต์แบบอ็อบเจกต์จะถือกำเนิดขึ้น จนกระทั่งกลายมาเป็นหัวใจหลักในการเขียนโปรแกรมยุคปัจจุบัน
- ก่อนเกิดอ็อบเจกต์
- แก้ปัญหาด้วยอ็อบเจกต์
- อ็อบเจกต์คืออะไร
- ในอ็อบเจกต์มีอะไรบ้าง
- คุณลักษณะ
- การใช้งาน
- อ็อบเจกต์กับ C#
- ขั้นแรก = สร้างคลาสต้นแบบของอ็อบเจกต์
- ขั้นที่สอง = สร้างอินสแทนซ์จากคลาสต้นแบบ
- ขั้นสุดท้าย = เรียกใช้อินสแทนซ์ที่สร้างขึ้นมา
- คอนสทรักเตอร์ = จุดเริ่มต้นของอินสแทนซ์
- นำคอนสทรักเตอร์ไปใช้งาน
- ดีสทรักเตอร์ = จุดจบของอินสแทนซ์
- constructor overloading เมื่อมีคอนสทรักเตอร์เกินหนึ่ง
- แก้ปัญหาด้วย this ถ้าพารามิเตอร์กับฟิลด์มีชื่อเหมือนกัน
บทที่ 8 ควบคุมส่วนประกอบของอ็อบเจกต์
ส่วนประกอบต่างๆ ของอ็อบเจกต์ อย่าง เมธอด, ฟิลด์ หรือพรอเพอร์ตี เป็นสิ่งที่จะต้องควบคุมในการเขียนโปรแกรม โดยการกำหนดสิทธิการเรียกใช้เป็น public หรือ private และกำหนดสถานะเป็น static หรือ dynamic ความแตกต่างของคุณสมบัติทั้งหลายเหล่านี้เอง ที่ทำให้การเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ ไม่เหมือนกับการเขียนโปรแกรมแบบดั้งเดิม
- กักบริเวณเมธอดและฟิลด์ด้วย public และ private
- ทำงานกับฟิลด์แบบ private ให้ง่ายขึ้น โดยอาศัยพรอเพอร์ตี
- แจกแจงส่วนประกอบของคลาสแบบ static กับแบบ dynamic
- เริ่มต้นที่ฟิลด์ก่อน
- แล้วตามด้วยเมธอด
- ตบท้ายกับพรอเพอร์ตี
- ดูง่ายๆ ตอนไหนใช้ static ตอนไหนเป็น dynamic
- ใช้ Object Initializer พร้อมกับ automatic properties ของ C# 3.0 ช่วยให้ชีวิตโปรแกรมเมอร์ง่ายขึ้นอีก
บทที่ 9 ถึงเวลานำอ็อบเจกต์มาใช้งาน
จะเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ให้เก่งๆ หลักสำคัญย่อมไม่ได้อยู่ที่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติ ในบทนี้จะอธิบายการทำงานเกี่ยวกับอ็อบเจกต์เบื้องต้น, การทำความเข้าใจเรื่องอ็อบเจกต์กับประเภทของข้อมูล, การทำงานระหว่างอ็อบเจกต์มากกว่าหนึ่งตัว รวมถึง operator overloading ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานอ็อบเจกต์ได้ง่ายขึ้น
- 7จะใช้งานอ็อบเจกต์ ต้องมองคลาสเป็น type
- การทำงานกับอ็อบเจกต์ (ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก)
- บวก-ลบ-คูณ-หาร เปรียบเทียบอ็อบเจกต์
- unary operator
- binary operator
- multinary operator
- ตัดแบ่งคลาสเป็นหลายๆ ไฟล์ด้วย partial
- จะเชื่อมโยงอ็อบเจกต์ ต้องมองคลาสเป็น relation
- หนังสือเพิ่มเติมสำหรับผู้สนใจ
บทที่ 10 อ็อบเจกต์ถ่ายทอดคุณสมบัติต่อๆ กันได้
อ็อบเจกต์หรือวัตถุในธรรมชาติ ล้วนมีคุณลักษณะต่างๆ ในตัวเองที่สามารถสืบทอดกันได้ อ็อบเจกต์ในโปรแกรมก็เช่นเดียวกัน หากคุณเข้าใจความเป็นไปและความสัมพันธ์ของวัตถุตามธรรมชาติ ก็ย่อมเข้าใจเรื่องของอ็อบเจกต์ในบทนี้ได้ กุญแจสำคัญอยู่ที่ว่า คุณลักษณะมีหลายแง่มุม ซึ่งเราต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อย เพื่อมองให้เห็นทะลุปรุโปร่ง!
- inheritance คืออะไร
- ทำความรู้จักกับบรรพบุรุษของคลาสใน .NET Framework
- เพิ่มส่วนประกอบใหม่ในคลาสลูก ไม่มีผลต่อคลาสแม่
- แก้ไขส่วนประกอบที่ถ่ายทอดจากคลาสแม่ ให้มีผลเฉพาะกับคลาสลูก
- ระบุ base เพื่อเรียกใช้ส่วนประกอบเดิมของคลาสแม่
- ใช้ protected เพื่อให้ลูกสืบทอดส่วนประกอบแบบ private จากแม่
- polymorphism ความสัมพันธ์หลายแง่มุมระหว่างแม่-ลูก
- เปลี่ยนสถานะกลางอากาศด้วย casting
- กำหนด virtual function เพื่อเรียกจาก static class แทน dynamic class
- abstract method เมธอดว่างงาน
- ห้าม inherit คลาสด้วย sealed
บทที่ 11 เพิ่มความสามารถของอ็อบเจกต์ ด้วย interface
ดูเผินๆ interface อาจจะคล้ายกับ inheritance แต่ที่จริงแล้วทั้งคู่มีความแตกต่างกันทั้งการสร้างและการใช้งาน ผมขอเรียก interface ว่า เป็นการสืบทอดคุณสมบัติของอ็อบเจกต์แบบข้ามสายพันธุ์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความสามารถที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยเติมเต็มให้การเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ มีประโยชน์ไม่น้อยหน้า inheritance เลย
- polymorphism ภาคสอง ว่าด้วยเรื่องของประโยชน์
- interface คืออะไร
- interface เกี่ยวข้องอะไรกับ polymorphism
- interface inheritance สถานะแบบข้ามสายพันธุ์
- สร้าง interface inheritance ในภาษา C#
- เพิ่ม interface เข้าไปในอ็อบเจกต์...
- ...แล้วเรียกใช้ interface ให้เห็นผล
- ลองของจริงกับ interface
บทที่ 12 จับอ็อบเจกต์ใส่กระด้งในนามของ namespace
การเขียนโปรแกรมสำหรับ .NET Framework มีสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย เนมสเปซก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ จนแทบจะเรียกว่าขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นแหล่งเก็บอ็อบเจกต์สำเร็จรูปต่างๆ ซึ่งแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบ และเราสามารถหยิบมาใช้ได้ทุกเวลาทุกโอกาส
- รู้จักกับเนมสเปซ (อีกครั้ง)
- เมื่อไรที่เราจำเป็นต้องใช้เนมสเปซ
- เริ่มต้นสร้างเนมสเปซกันก่อน
- 3 วิธีเรียกใช้คลาสจากเนมสเปซ
- เรียกแบบเต็มยศ
- เรียกด้วย using
- เรียกโดยการตั้งชื่อเล่นหรือ alias
- เนมสเปซซ้อนเนมสเปซ
- วิธีแรก namespace1.namespace2
- วิธีที่สอง namespace2 ซ้อนภายใต้บล็อกของ namespace1
- หน้าที่ของเนมสเปซต่างๆ ใน .NET Framework
- คลาสแม่-ลูก ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเนมสเปซเดียวกัน
บทที่ 13 เขียน OOP กับฐานข้อมูลด้วยเทคโนโลยี ADO.NET Entity Framework
ไม่ว่าโปรแกรมเมอร์จะพัฒนาโปรแกรมด้วยอ็อบเจกต์ที่ถูกต้องสวยงามเพียงใด การบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงในฐานข้อมูลยุคนี้ ก็ยังคงหนีรูปแบบฐานข้อมูล relational ไปไม่พ้นเทคโนโลยี ORM จะเป็นตัวช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถติดต่อฐานข้อมูลได้ในรูปแบบอ็อบเจกต์ ซึ่งจะช่วยลดเวลาการเขียนโปรแกรมได้ถึง 70% โดยประมาณ!!
- object กับ relational
- การเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจกต์ในอุดมคติ
- ทักทาย object-relational mapping (ORM)
- รู้จักกับ ADO .NET Entity Framework
- เตรียมเครื่องให้พร้อมสำหรับ Entity Framework
- เรียนลัด Entity Framework
- เตรียมฐานข้อมูล SQL Server
- สร้าง Entity Data Model
- ทำความเข้าใจ Entity Data Model
- เปรียบเทียบเอ็นทิตี้กับคลาสไดอะแกรม
- เริ่มเขียนโปรแกรม
- ลองรันโปรแกรมกันจริงๆ
บทที่ 14 เขียนโปรแกรม ADO .NET Entity Framework บนวินโดวส์แอปพลิเคชัน (1)
บทที่แล้วคุณได้รู้จักพื้นฐานของ ORM และ ADO .NET Entity Framework พอหอมปากหอมคอ ในบทนี้จะเจาะลึกรายละเอียดการเขียนโปรแกรมติดต่อกับฐานข้อมูลโดยใช้วินโดวส์แอปพลิเคชัน เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมการทำงานของภาษา C# ตั้งแต่ต้นจนจบ และสามารถนำภาคทฤษฏีต่างๆ ไปปรับใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เข้าใจวินโดวส์แอปพลิเคชัน
- รู้จักกับคอนโทรล
- รู้จักกับการเขียนโปรแกรมแบบอีเวนต์
- เรียกชุดข้อมูล (Retrieve) จากฐานข้อมูลด้วย Entity Framework
- สร้างตารางแสดงผลแบบลากวาง
- เตรียม ORM สำหรับคลาส Form1
- เรียกข้อมูลเดี่ยว (Retrieve) จากฐานข้อมูลด้วย Entity Framework
- สร้างแบบฟอร์มสำหรับแสดงข้อมูลลูกค้ารายบุคคล
- สร้างเมธอดแบบ Event Handler เพื่อรองรับการดับเบิลคลิกที่ customerGridView
- ดูผลลัพธ์
- แถมอีกนิดก่อนจบบท ด้วยการคำนวณชุดข้อมูล
บทที่ 15 เขียนโปรแกรม ADO .NET Entity Framework บนวินโดวส์แอปพลิเคชัน (2)
บทนี้เป็นบทรองส่งท้ายที่ผมจะนำโค้ดโปรแกรมฉบับสมบูรณ์ของโปรเจ็กต์ PetStore มาแสดงให้คุณดูพร้อมอธิบายจุดที่น่าสนใจ หากคุณทำความเข้าใจบทนี้ได้และไม่มีข้อติดใจสงสัยใดๆ นั่นหมายถึงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มก้าวแรกในการเขียนโปรแกรม C# เพื่อติดต่อกับฐานข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี ADO .NET Entity Framework
- เตรียมความพร้อม
- จัดวางคอนโทรลให้พร้อม
- เตรียมเมธอดแบบ Event Handler
- เริ่มเขียนโปรแกรม
- เรียกชุดข้อมูลลูกค้า
- เรียกข้อมูลเดี่ยวของลูกค้า พร้อมกับชุดข้อมูลสัตว์เลี้ยง
- สร้างข้อมูลลูกค้าและสัตว์เลี้ยง
- ปรับปรุงข้อมูลลูกค้าและสัตว์เลี้ยง
- ลบข้อมูลลูกค้าและสัตว์เลี้ยง
บทที่ 16 รู้จัก C# 4.0 และภาษาแบบ dynamic
หัวใจหลักของการเขียนโปรแกรมแบบอ็อบเจ็กต์ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ inheritance และ polymorphism ซึ่งได้พูดถึงในบทก่อนๆ แล้ว แต่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ C# 4.0 จะเปลี่ยนมุมมองของ inheritance และ polymorphism ไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยการเขียนโปรแกรม C# 4.0 เรียกว่าการเขียนโปรแกรมแบบ dynamic และภาษา C# 4.0 ก็ถูกเรียกว่าภาษาแบบ dynamic
- ทวน early binding กับ inheritance กันซักนิด
- รู้จักกับ late binding และ dynamic ใน C# 4.0
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของภาษาแบบ dynamic
- เข้าใจ Dynamic Language Runtime ของ .NET Framework 4.0
- ข้อสรุปของภาษาแบบ dynamic
- ส่งท้ายกับภาษา C#
ภาคผนวก ก ค้นหา Base Class จาก Visual C# Object Browser
ภาคผนวก ข เรื่องที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง
ภาคผนวก ค รวบรวมข้อมูลอ้างอิงภาษา C# และ .NET ที่น่าสนใจ
FAQ คำถามที่พบบ่อย